ข้อบังคับคณะกรรมการบริษัท
ข้อ 1 วัตถุประสงค์
คณะกรรมการบริษัท ร่วมกับฝ่ายจัดการมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจ ให้บรรลุตามเป้าหมาย อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์
ภารกิจและจรรยาบรรณทางธุรกิจ และ เป็นตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี ดังนั้น เพื่อความโปร่งใสในการกำกับดูแลกิจการของคณะกรรมการ
จึงได้กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ให้ชัดเจน
ข้อ 2 โครงสร้างของคณะกรรมการ
คณะกรรมการของบริษัท ประกอบด้วย กรรมการไม่น้อยกว่า 5 คน กรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน
กรรมการทั้งหมดต้องมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประกอบด้วย
1 กรรมการที่เป็นผู้บริหาร ( Executive Director ) : ซึ่งเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานประจำ หรือ
มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท
2 กรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร ( Non-Executive Director ) รวมทั้งกรรมการที่เป็นอิสระ โดยต้องมีกรรมการ
อิสระ อย่างน้อย 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งหมด และต้องไม่น้อยกว่า 3 คน กรรมการทุกท่านมีคุณสมบัติ ความรู้ และประสบการณ์ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และเอาใจใส่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบของตน
กรรมการอิสระมีคุณสมบัติตามที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ประธานกรรมการ
มีหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายนโยบาย กำหนดวิสัยทัศน์ และ กำกับดูแลการทำงานของผู้บริหารระดับสูง
วาระในการดำรงตำแหน่งของกรรมการ
เมื่อมีการประชุมสามัญประจำปีทุกคราวให้กรรมการออกจากตำแหน่งจำนวนหนึ่งในสามของกรรมการทั้งหมดถ้าจำนวนกรรมการที่แบ่งออกให้ตรง
เป็นสามส่วนไม่ได้ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้ที่สุดกับหนึ่งในสามและให้กรรมการที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดนั้นออกจากตำแหน่งก่อนและถ้าตกลง
กันเรื่องการออกจากตำแหน่งไม่ได้ให้ใช้วิธีจับฉลากกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับเลือกตั้งใหม่ได้เมื่อได้รับการแต่งตั้งกรรมการแต่ละคน
จะได้รับข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ดังนี้
1.ข้อบังคับคณะกรรมการบริษัท
2.คู่มือกรรมการบริษัทจดทะเบียน
3.หลักการกำกับดูแลกิจการ
4.วิสัยทัศน์ ของบริษัท
5.จรรยาบรรณ ของกรรมการและ พนักงาน
6.หนังสือแนะนำบริษัท และ รายงานประจำปีของคณะกรรมการปีล่าสุด
7.คู่มือกฎและ ระเบียบ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
8.พาเยี่ยมชมบริษัทและกระบวนการผลิตกรรมการอาจขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญอิสระตามความเหมาะสมด้วยค่าใช้จ่ายของบริษัท
กระบวนการสรรหาและแต่งตั้งกรรมการ
กรรมการทุกท่าน หรือคณะกรรมการสรรหา(ถ้ามี) พิจารณาสรรหา และเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมการเพื่อขอความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการบริษัทโดยมีเกณฑ์ ในการพิจารณาคัดเลือกดังนี้
1.มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด ( พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัดและพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ )
2.มีความรู้ , ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
3.มีภาวะ ผู้นำ วิสัยทัศน์ และ สามารถแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระจากฝ่ายจัดการและกลุ่มที่มีผลประโยชน์อื่นใด
4.มีคุณธรรม และ จริยธรรม ประวัติการทำงานโปร่งใส ไม่ด่างพร้อย
5.มีเวลาเพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่กรรมการของบริษัท โดยกำหนดจำนวนบริษัทจดทะเบียนที่กรรมการแต่ละท่านจะไปดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ
ไม่เกิน 5 บริษัท
6.มิได้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับบริษัทการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทให้ดำเนินการตามข้อกำหนดของ
พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด
การเข้าถึงสารสนเทศของกรรมการ
กรณีที่กรรมการท่านใดต้องการสารสนเทศของบริษัท ที่จำเป็นเพิ่มเติมให้ร้องขอไปยังประธานกรรมการบริหารหรือเลขานุการบริษัท หากต้องการ
สอบถามโดยตรงจากผู้บริหารอื่น ต้องแจ้งให้ประธานกรรมการบริหารและประธานกรรมการทราบ
ค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร
บริษัท ให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมแก่กรรมการและผู้บริหารโดยพิจารณาตามความเหมาะสมและเสนอค่าตอบแทนกรรมการต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น
เพื่ออนุมัติ
ข้อ 3 การประชุมคณะกรรมการ
การประชุมคณะกรรมการ อย่างน้อยต้องมีการประชุมคณะกรรมการ 3 เดือน ต่อ 1 ครั้ง กรรมการทุกคนมีหน้าที่เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการและ
อาจมีการประชุมเพิ่มเติมในกรณีที่มีความจำเป็น การลงมติ กรรมการที่มีส่วนได้เสียไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น
(ดูระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการประชุมคณะกรรมการ)
ข้อ 4 บทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
คณะกรรมการบริษัท มีหน้าที่ และความรับผิดชอบในด้านกลยุทธ์องค์กร การกำกับดูแลกิจการการบริหารทรัพยากรบุคคลการรายงานทางการเงิน
และการเปิดเผยข้อมูลและการสื่อสารดังนี้
1.กลยุทธ์องค์กร
สอบทานให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับกลยุทธ์และ นโยบายที่สำคัญ วัตถุประสงค์ทางการเงินตลอดจน แผนงานต่างๆ และ งบประมาณของ
บริษัทและดูแลให้มีการปฏิบัติตามแผนงาน
2.การกำกับดูแลกิจการ
จัดให้มีถ้อยแถลงเกี่ยวกับนโยบายหลักการกำกับดูแลกิจการของตนเองและมีการประเมินผลการกำกับดูแลเป็นประจำดูแลให้มั่นใจว่าสิทธิของ
ผู้มีส่วนได้เสีย ได้รับการคุ้มครองและปฏิบัติสร้างความเข้าใจกับผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ และ ขอความร่วมมือในการสร้างความมั่งคงให้กับกิจการ
จัดให้มีระบบที่ให้ความมั่นใจว่ากิจกรรมต่างๆของบริษัท ได้ดำเนินไปในลักษณะที่ถูกต้องตามกฏหมายและ จริยธรรมที่ดีจัดให้มีแนวทางเกี่ยวกับ
จริยธรรมธุรกิจหรือจรรยาบรรณ และเฝ้าสังเกตถึงการปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวโดยกรรมการและพนักงานทุกคน และพิจารณาทบทวนและปรับ
ปรุงให้เป็นปัจจุบันจัดทำและรักษาไว้ และทบทวนระบบการควบคุมทั้งการควบคุมทางการเงินการดำเนินงาน และการกำกับดูแลการปฏิบัติงาน
ตลอดจนการจัดการความเสี่ยง และการให้ความสำคัญกับสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าและรายการผิดปกติทั้งหลายจัดให้มีงานตรวจสอบภายในแยก
เป็นหน่วยงานหนึ่งของบริษัทและกำหนดบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบอย่างชัดเจนดูแลให้มั่นใจว่าโครงสร้างและวิธีปฏิบัติต่างๆของคณะ
กรรมการที่เป็นอยู่ได้ปูทางไว้สำหรับการกำกับดูแลที่เหมาะสมและปฏิบัติงานอย่างมีจริยธรรมที่ดี และทำการเปลี่ยนปลงเมื่อจำเป็นสอดส่องดูแล
และจัดการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของฝ่ายจัดการ คณะกรรมการและ ผู้ถือหุ้น รวมทั้งการใช้สินทรัพย์ของบริษัทในทางมิชอบ
และการกระทำที่ไม่ถูกต้องในรายการระหว่างบุคคลที่เกี่ยวโยง
3.การบริหารทรัพยากรบุคคล
เลือกและประเมินผลงานของคณะกรรมการบริหารเป็นประจำทุกปีแต่งตั้งเลขานุการของบริษัทซึ่งมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญเกี่ยวกับการประชุม
คณะกรรมการและการประชุมผู้ถือหุ้น และให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับคณะกรรมการ
4.การรายงานทางการเงิน
ให้มีระบบการรายงานทางการเงินและการตรวจสอบที่มีความเชื่อถือได้ ดูแลให้มีกระบวนการในการประเมินความเพียงพอของการควบคุมภายใน
การจัดการความเสี่ยง และ การติดตามให้มีการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิผล
5.การเปิดเผยข้อมูลและการสื่อสาร
จัดทำรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับนโยบายการกำกับดูแลบริษัทและการนำไปปฏิบัติและรายงานในรายงานประจำปีรายงานข้อมูล
ทางการเงิน และ ข้อมูลทั่วไปต่อผู้ถือหุ้น อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และ โปร่งใสรายงานผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับผลปฏิบัติงานรายงานความรับผิดชอบของ
คณะกรรมการต่อการจัดทำและเปิดเผยรายงานทางการเงินของกิจการอำนวยความสะดวกในการจัดประชุมผู้ถือหุ้น จัดสรรเวลาในการประชุม
ผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสมดูแลให้มั่นใจว่าบริษัทได้เปิดเผยสารสนเทศที่สำคัญ อย่างถูกต้องทันเวลาและโปร่งใสจัดให้มีหน่วยงานเพื่อเป็นตัวแทน
สื่อสารกับผู้ลงทุนและจัดหาทรัพยากรอย่างเพียงพอเพื่อช่วยพัฒนาความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการนำเสนอสารสนเทศ และการ
ติดต่อสื่อสาร
6.คณะอนุกรรมการ
จัดให้มีคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยศึกษาในรายละเอียดและกลั่นกรองงานตามความจำเป็น โดยกำหนดนโยบายและกรอบงานไว้อย่างชัดเจน
เกี่ยวกับคุณสมบัติสมาชิก หน้าที่รับผิดชอบ การดำเนินการประชุม และการรายงานต่อคณะกรรมการ
ข้อ 5 การประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ
เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของคณะกรรมการคณะกรรมการจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานโดยรวมของคณะกรรมการทั้งคณะครอบคลุมบทบาท
หน้าที่ทั้งหมดของคณะกรรมการโดยจะทำการประเมินตนเองปีละ 1 ครั้ง หลังสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี
ข้อ 6 การรายงานต่อผู้ถือหุ้น
ให้ความสำคัญต่อการเปิดเผยข้อมูลที่ ถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส ทันเวลา ได้แก่เสนอรายงานต่อผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานไว้ในรายงาน
ประจำปีรายงานข้อมูลทางการเงิน และ ข้อมูลทั่วไปต่อผู้ถือหุ้นอย่างถูกต้องครบถ้วน และโปร่งใส มีคำอธิบายและตัวเลขสนับสนุน รวมทั้งแนวโน้ม
ในอนาคตรายงานในรายงานประจำปีถึงนโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลบริษัท และ การนำไปปฏิบัติ